วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่สิบห้าเมษายน คอศอสองพันสิบเอ็ด มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตผม คนเราบางทีก็ใช้ชีวิตเพราะแบ่งแค่ขาวดำไม่ได้ บางทีตัวคุณอาจะเดินไปบนโคลนมากกว่าจะเดินไปท้องถนน วันนี้เป็นวันที่มีเรื่องหนักใจมากมาย เพื่อนผมเกือบจะฆ่ากันเพราะผมเป็นต้นเหตุ จะมากจะน้อยแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเกินคำบรรยายที่ผมจะรับรู้ได้ กว่าจะเอ่ยให้เป็นรูปธรรมได้ ไม่ว่ามันจะเป็นเช่นใดแต่มัน คงจะเปลี่ยนชะตาชีวิตอย่างที่มันควรจะเป็นให้บิดเหไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่ว่าคนจะยอมรับมัน หรือไม่ยอมรับสิ่งทีมันเกิดขึ้นก็ตาม ผมเองก็ยังเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังไม่มี มีครอบครัว ไม่มีคนคู่ใจ แต่เหตุการ์ณที่เกิดขึ้นมันทำเอาผมเสียใจจริงจริง ผมไม่อยากให้เพื่อนผมใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาแบบนี้เลย แต่อย่างน้อยมันก็มีครอบครัวเเล้ว แต่เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ยากแต่การอภัยสำหรับในใจคนหลาย หลายคน ผมสมควรจะรับผิดชอบคนแรก แรกเกินจะเอ่ยกล่าว แต่ก่อนนั้น ก่อนวันนี้จะมีเหตุ ผมพยายาม พยามยาม แต่ทว่า... แม้ผมจะพยายามหาจุดยืนของตัวเอง แต่มันไม่เพียงพอต่อการลังเลใจของตนเอง อย่างไรก้ตาม อะไรที่มันต้องเกิด คงจะต้องเกิดต่อไป จะคร่ำควรเรียกหาคุณธรรมตอนนี้ มันคงไม่มีเเล้ว เมื่อเหตุการ์รมันเกิดและบานปลายแบบนี้ คงต้องยอมรับมัน เราไม่มีสิทธหนี กาหนีไม่ใช่การแก้ัญหา สำหรับผมทุกอย่างมันอาจจะกำหนดมาแล้วตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้ มาถึงตอนนี้ วันนี้ ผมเองก็เหมือนเิดิม คือคนที่ไม่ได้มีจุดยืนหรือสถานะของสังคมเช่นเดิม เสีนยงของผมไม่สามารถทำให้โลกรับรู้ได้ ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แค่เพื่อน ผมเองยังทำให้มันเกิดปัญหา ผมไม่มีคุณสมบัติของตนเองเลย ความคิดของผมนั้นผมเองไม่ต้องการจะมีฐานะในสังคมหรอก แต่ขอแค่ สิทธชีวิตมนุษย์เบื้องตน คืออิสระ พวกเรามนุษย์เผ่าทั้งหลายต่างจากสัตว์ทั่วไปคือ อิสระ พวกเรารู้จักคำนี้ดีกว่า สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ไหนไหน ไม่ว่าจะเป็นการที่ว่า อิสระของเจ้าชายสินทัธธะ ตัดสินใจออกผนวช ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการเรียกร้องของ จีซัสไครส์ท ทุกสิ่งเริ่มมาจากอิสระทั้งนั้น ยามมนุษย์ขาดสิ่งนี้ ยากนั้นมนุษย์ชาติคงไร้ตัวตน มันยิ่งใหญ่ ล้ำค่าสำหรับบางคน แต่ก็เล็กน้อยกับอีกหลายหลายคนเช่นกัน ผมเองก็เหมือนเดิมคงจะไร้ตัวตนเช่นเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ผมจะยอมให้คนที่ผมนับเป็นเพื่อน มีปัญหาชีวิตแบบนี้ต่อไป ไม่ได้ หนทางออกมันยังมี อยู่ทีคนเราจะยอมรับมันหรือเปล่า แต่มนุษย์ก็แปลกอีกที่ ชอบสร้างสิ่งที่เรียกว่านามธรรมขึ้นมามากมาย และคงต้องใช้ นามธรรมนั้นเพื่อเข้าอยู่กับสังคมอีกต่อไป มีคำว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่ อะไรมันเกิดขึ้นแล้วคงหาทางลงได้ยาก ยิ่งนึกยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งย้ำยิ่งผิดแผกแตกไป ความจริงคนเราอาจะเหมือนธุลีแต่เดินได้ อยู่ที่การกะทำเป็นตัวชี้วัด ในสายตาอื่นอื่น เขาชี้วัดเกริ่นนำด้วยการกะทำค่อยซ้ำด้วยนามธรรมที่มีมาให้ การกะทำใฝ่ดีรักษาบิดามารดาเรียกว่ากตัญญูู ความจริงผมเองก็อยากจะแคร์คนอื่นเหมือนกัน แต่กะนั้นสิ่งบางสิ่งมันด้อยค่า ผมเองไม่มีพลังอะไร ไมไ่ด้มีประโยชน์อะไรกับสังคมในตอนนี้ จะไปบอกกล่าวเล่าเรื่องให้ใครฟังก็เหมือนคนบ้าคนหนึ่ง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผมเองคงล้าหลังนอื่น อื่นในสังคมมากมายพอแล้ว แต่ผมเองก็ยังมีเจตจำนงของตัวเองอยู่อยากจะรับผิดชอบหรือไถ่บาปสิ่งทีทมันเกิดขึ้น ในอนาคตอันห่างไกล ผมนึกภาพคนเราไม่ออก เท่าที่จะนึกออกหรอก แม้โลกคงไม่แตกสลายดังในภาพยนตร์ แต่ลึกลึกผมเองก้ฝันหรือหวงัว่า อยากให้มันลองล่มสลายในหลายหลายรูปแบบ แต่นั่นเป็นเพียงความคิด ต่อไปข้างหน้าผมจะเป็นยังไง เราจะเดินไปแบบไหน เราจะใช้ชีวิตยังไง ใครกำหนดเรา มนุษย์ชาติหรือนาคต แต่คนเรามันอาจะได้ลิขิตมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ ยามเราเกิด ยามเราได้รับแสงสว่าง ก่อนเราจะกำเนิด สัญชาติญาณเราเป็นตัวกำหนด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น